วิธีลดความกังวลต่อลูก (อ่าน4นาที)

12 October 2022

วิธีหยุดความกังวลและหลีกเลี่ยงการเลี้ยงลูกแบบไม่ยอมปล่อย

แนะนำว่าให้หยุดทำสิ่งเหล่านี้

ผู้ปกครองหลายคนมีความวิตกกังวล—เกี่ยวกับความปลอดภัย ความสุข และความสามารถในการท่องโลกของเด็กๆ ผู้ปกครองจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการคาดเดาทุกย่างก้าวที่ทำในฐานะพ่อแม่ ทำให้จิตนาการในสิ่งที่เลวร้ายในทุกสถานณ์การที่อาจจะเกิดขึ้นกับลูก 

จิตใจของผู้ปกครองจะทำให้ฉายภาพความกลัวที่เลวร้ายที่สุดไปยังลูกๆ ทำให้คอยห้ามหรือดูแลแบบไม่ปล่อยให้เด็กได้เรียนรู้ด้วยตัวเองสักที

5 ขั้นตอนในการหลีกเลี่ยงความกังวลมากเกินไปและหลีกเลี่ยงการเลี้ยงลูกแบบไม่ปล่อยให้อิสระ

 

1.ปล่อยให้เด็กช่วยเหลือตัวเองบ้าง

อย่าผูกเชือกรองเท้าให้เด็กอายุ 5 ขวบ เมื่อเด็กสามารถผูกด้วยตนเองได้ หรือแต่งตัวให้เด็กเมื่อเด็กสามารถแต่งตัวตัวเองได้ อย่าคอยห้ามเด็กทำกิจกรรมตามปกติที่เด็กควรจะได้รับในระดับอายุของเด็ก ผู้ปกครองไม่ควรตอบทุกคำถาม เพื่อที่จะให้เด็กคิดหาคำตอบด้วยตัวเอง หากเด็กลังเลที่จะตัดสินใจด้วยตัวเอง พยายามอย่าแก้ไขให้เด็ก ปล่อยให้เด็กรู้สึกไม่สะดวกสบายหรือความเจ็บปวด มันเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโต อย่าป้องกันเด็กจากความยากลำบากในชีวิต เพื่อที่เด็กจะได้เรียนรู้ว่าคุณไม่ได้อยู่ช่วยเขาตลอดชีวิต

2.อย่าทำให้ความกังวลของคุณตกอยู่ที่เด็ก

อย่างมุ่งความสนใจ ในการคอยระวังตลอดเวลา โดยนึกถึงผลลัพธ์ที่แย่ที่สุดทั้งหมด เลิกคิดลบเกี่ยวกับอนาคตของเด็ก เช่น ผู้ปกครองอาจจะคิดว่าความเขินอายของลูกเป็นสัญญาณบอกว่าลูกขาดความมั่นใจหรือเปล่า?” อย่าซักถามเด็กเมื่อคุณเกิดความกังวลและถามต่อไปว่า “หนูเป็นอย่างไรบ้าง " "แน่ใจนะ?" หรือ “นั่นดูยาก แน่ใจนะว่าจัดการได้” หรือ “หนูมีใครเล่นด้วยไหมในช่วงพักกลางวัน?  ผ่อนคลายเขาไว้

3.อย่าคาดหวัง

การตำหนิลูกในทางลบ (หรือในทางบวก) ไม่ใช่ความคิดที่ดี เพราะมันจะกำหนดความคาดหวัง ของคุณว่าลูกจะต้องเป็น "คนสวย" หรือ "คนตลก" หรือ "คนเกียจคร้าน" หรือ "คนที่จะกลายเป็นเหมือนพ่อ"   เลิกคิดว่าตอนนี้ลูกของคุณเป็นอย่างไร หรือ จะเป็นอย่างไร ยังไม่มีใครรู้ แม้แต่ลูกของคุณ ปล่อยให้เขาจินตนาการชีวิตของเขาด้วยตัวเอง

4.อย่าโกรธเด็ก ถ้าเด็กไม่เห็นด้วยกับคุณหรือทำสิ่งที่แตกต่างไปจากคุณ

หากคุณเข้าไปในหัวของลูกคุณ เขาจะไม่สามารถได้ยินความคิดและความเชื่อของเขาเองได้ ถึงแม้ว่าเขาจะคิดต่างจากคุณ ผู้ปกครองไม่ควรโต้เถียงกับเขาในเรื่องที่ลูกไม่เห็นด้วย ค่อยๆทำให้เขาเล่าสิ่งที่เขาคิดต่างให้กับคุณฟัง ผู้ปกครองควรสนับสนุนถ้าเขาเลือกเส้นทางในชีวิตที่ต่างไปจากที่คุณคิดว

5อย่าจดจ่ออยู่กับลูกจนไม่สนใจตัวเอง

นี่เป็นเรื่องใหญ่และอาจเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ปกครอง พยายามอย่าเข้าไปพัวพันกับชีวิตของลูกจนละเลยชีวิตของตัวเอง อย่าคิดหรือกังวลเกี่ยวกับลูกของคุณมากจนคุณหลีกเลี่ยงการคิดถึงชีวิตของตัวเอง งานของคุณ หรือความสัมพันธ์ในวัยผู้ใหญ่ของคุณ ให้บุตรหลานของคุณได้สัมผัสกับผลที่ตามมาจากการกระทำของเขา เลิกกังวลตลอดเวลาในฐานะพ่อแม่ และตระหนักว่าคุณไม่สามารถควบคุมทุกอย่างที่ลูกทำ ปล่อยให้พวกเขาทำผิดพลาด เผชิญกับผลที่ตามมา และแก้ปัญหาของตนเอง การทำเช่นนี้จะช่วยให้คุณเลิกกังวลตลอดเวลา และที่ดีที่สุดทั้งหมด มันจะช่วยให้คุณกลายเป็นพ่อแม่ที่สงบมากขึ้น


เขาใจหัวอกคนเป็นพ่อแม่เลยค่ะ หวังว่าผู้ปกครองจะผ่อนคลายขึ้นนะคะ

 

 

อ่านต่อ 

บทความน่าสนใจอื่นๆ

สามารถติดตามได้ที่เพจ FB :https://www.facebook.com/Punsaenglifeskills/

อยากจะให้ปัญแสงช่วยอัพเดตกิจกรรม @Line : https://lin.ee/m4V3Y8S

สำหรับคุณครู ต้องการให้ปัญแสงช่วยโปรโมท คอร์สเรียน ลงทะเบียน+ลงคอร์ส ไดที่นี่ www.punsaeng.com นะคะ ฟรีไม่มีค่ายใช้จ่ายใดๆ

วิธีการลงคอร์สสำหรับผู้สอน https://www.punsaeng.com/news/238/